คุณรู้จัก

เหล้าพื้นบ้าน

เกี่ยวกับเรา

SURACHAE

เราเป็นเว็บไซต์เพื่อการศึกษา ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสุราพื้นบ้านในไทย และสนับสนุนให้สุราพื้นบ้านนั้นมี ความแพร่หลายมากขึ้น!

“เพราะการทำสุราก็เป็นศิลปะไม่ต่างจาก
การทำเครื่องดื่มชนิดอื่น ๆ เลย”


ประวัติ

เหล้าพื้นบ้าน-สุราไทย-สุราแช่

การผลิตเหล้าพื้นบ้านมีสูตรในการทำที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ แต่วัตถุดิบหลักคือ ข้าวเหนียวหรือน้ำตาล และลูกแป้งหรือหัวเชื้อส่าเหล้า

โดยทั่วไป การหมักเหล้าพื้นบ้านทำได้โดยการนำข้าวเหนียวและลูกแป้งผวมกันด้วยกรรมวิธีต่าง ๆ และหมักเอาไว้ ซึ่งสำคัญคือความสะอาด เพราะถ้ามีเชื้อเข้าไป จะทำให้สุราเสียได้



ประเภทของเหล้าพื้นบ้าน

มีการจำแนกต่างกันในแต่ละตำรา แต่เรานิยามและแบ่งออกมาเป็น 4 ประเภท



สาโท

สาโท/น้ำขาว

สาโทเป็นเครื่องเดิมที่นิยมทำกันอย่างแพร่หลาย มีรสหวาน สีขุ่น หรือถ้าหมักไว้นานจะมีสีใสและเป็นตะกอน วัตถุดิบหลักคือ ข้าวเหนียวและลูกแป้ง มักทำเพื่อเป็นเครื่องดื่มในงานเทศกาลหรืองานเลี้ยง

เหล้าอุ

เหล้าอุ/อุ/เหล้าไห

เหล้าอุเป็นเหล้าที่ทำจากข้าวเหนียวผสมแกลบหรือแป้งเหล้า หมักในไหเพื่อให้เกิดแอลกอฮอล์ รสชาติหวานกลมกล่อม เวลาดื่มให้ดื่มจากไห สามารถผสมเครื่องดื่มอื่น ๆ ลงไปได้เมื่อใกล้หมด หรือเพิ่มรสชาติ





เหล้าขาว

เหล้าขาว/เหล้ากลั่น

เหล้าขาวหรือเหล้ากลั่น ทำจากข้าว ข้าวโพด หรืออ้อย เป็นการหมักวัตถุดิบและนำไปกลั่นเพื่อให้ได้ดีกรีของแอลกอฮอล์ที่สูงขึ้น เหล้าขาวมีสีใสและไม่มีสิ่งปรุงแต่ง 

กะแช่

กะแช่/กระแช่/น้ำตาลเมา

ได้จากการหมักน้ำตาลสด น้ำตาลมะพร้าว หรือน้ำตาลโตนด และนำไม้เคี่ยม ไม้พยอม หรือไม้ตะเคียนใส่ลงไป ไม้ชนิดต่าง ๆ นี้จะหน้าที่เหมือนเป็นยีสต์ธรรมชาติที่กินน้ำตาลและคายแอลกอฮอล์ออกมา ทำการหมักไว้ 1 วันก็สามารถรับประทานได้





ชาว SURACHAE เสนอ

“วันนี้ชนอะไรดี!”

หาข้อมูลมาก็เยอะ รู้จักเหล้าพื้นบ้านมามาก หรือแม้แต่ จะออกไปสังสรรค์กับเพื่อนแต่ยังไม่รู้ว่า วันนี้ชนอะไรดี มาลองสุ่มกัน

ไปดูกันเลยดีมั้ย?


SURACHAE

อย่าลืมดื่มแบบมีสติ!

เกร็ดความรู้

รู้หรือไม่?

สุราพื้นบ้าน

เคยถูกกฎหมาย!

ในปี 2546 สุราพื้นบ้านเคยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ทำให้ชาวบ้าน ชุมชน หรือกลุ่มสหกรณ์พื้นที่ต่าง ๆ มีรายได้เป็นอย่างมาก

แต่ภายหลังก็ถูกกังขาจากผู้บริโภค กรมสรรพสามิต และหน่วยงาน
ต่าง ๆ จนมีข้อกำหนดมากมายและทำให้ถูกจำกัดอยู่ใต้กรอบจนภูมิปัญญานี้ในหลาย ๆ พื้นที่เริ่มหายไปในที่สุด